ปกติในข้อเข่าคนเราจะมี น้ำไขข้อ หรือ น้ำเลี้ยงข้อ อยู่แล้ว ทำหน้าที่ให้
1.ความหนืดและความยืดหยุ่นในข้อ ช่วยลดแรงกระแทกต่อกระดูกอ่อนผิวข้อ ( Cartilage ) หล่อลื่นผิวข้อ ทำให้ข้อเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
2.มีโปรตีนที่ช่วยในการสร้างผิวข้อแทนส่วนที่สึกเหรอ นำสารอาหารและออกซิเจนมาเลี้ยงกระดูกอ่อนปกติน้ำไขข้อในเข่าจะมีเพียง 5-6 ซีซี เท่านั้น
ในคนไข้โรคข้อเข่าเสื่อม น้ำไขข้อจะมีการเปลี่ยนไปดังนี้
1.ปริมาณลดลง ( ที่มักจะเรียกกันว่า น้ำไขข้อแห้ง ) แต่ในคนไข้ที่เป็นเข่าเสื่อมและขณะนั้นมีการอักเสบมาก จะตรงข้ามกัน คือ ปริมาณน้ำในข้อจะเพิ่มขึ้น แต่เป็นน้ำไขข้อที่ไม่ดี ไม่สามารถหล่อลื่นได้เหมือนปกติ
2.ความหนืดและความยืดหยุ่นลดลง ทำให้เกิดการทำลายของกระดูกอ่อนผิวข้อมากขึ้น
น้ำไขข้อเทียม ( Hyaluronic acid )
เป็นสารที่ได้จากการสกัดจากธรรมชาติ ในวงการแพทย์ทั่วโลกและในประเทศไทยมีหลายยี่ห้อ มีคุณสมบัติใกล้เคียงน้ำไขข้อของคนปกติมากที่สุด โดยฉีดเข้าไปข้อเข้าจะช่วยให้ข้อเคลื่อนไหวดีขึ้น มีฤทธิ์ลดการอักเสบได้( เป็นคุณสมบัติในบางยี่ห้อของกลุ่มยาฉีด) ทำให้อาการปวดข้อลดลง และมีวิจัยยืนยันว่าสามารถช่วยชะละการผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเทียมไปอีก 3-5 ปี โดยเฉพาะในคนไข้ที่กลัว หรือยังไม่พร้อมที่จะได้รับการผ่าตัด มีการแบ่งน้ำเลี้ยงข้อเทียมตามขนาดโมเลกุลของของยาฉีด ถ้าเป็นขนาดเล็กการฉีดแพทย์มักจะฉีด 3-5 เข็ม ๆละทุกอาทิตย์ติดต่อกัน และถ้าเป็นขนาดโมเลกุลใหญ่จะฉีดเป็นครั้งเดียว คลอบคลุมอาการได้นาน 6 เดือน-1ปี การฉีดน้ำเลียงข้อเทียมมีการใช้รักษาคนไข้มากมายทั้งในต่างและในประเทศ เพราะ ไม่พบว่ามีผลข้างเคียงที่รุนแรง สามารถใช้ได้ด้วยความปลอดภัยสูง
เกร็ดเลือด ( Platelet Rich Plasma , PRP )
เป็นการนำเลือดคนไข้มาปั่นด้วยเครื่องปั้นเลือด และนำเฉพาะส่วนเกร็ดเลือดนำกลับไปฉีดในข้อเข่า ในปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยในเรื่องนี้มากมายมากกว่า 10 ปี แต่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าได้ผล โดยเฉพาะข้อเข่าที่สึกเหรอในระดับความรุนแรงเกรด 3 หรือ 4 , ส่วนในระดับ 1 และ 2 การวิจัยพบว่าผลการรักษาไม่แตกต่างกับการฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่าเทียม ในประเทศไทย ส่วนใหญ่ยังพบการฉีดเกร็ดเลือดในโรงพยาบาลเอกชน แต่โรงพยาบาลรัฐบาลยังไม่พบการฉีดที่แพร่หลายมากนัก และการฉีดนี้ไม่สามารถเบิกได้จากกรมบัญชีกลาง
ผลการรักษาในทั้ง 2 ประเภท อาจจะแตกต่างกันไปในคนไข้แต่ละราย ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและระยะข้อโรคข้อเข่าเสื่อม ถ้ามีข้อเสื่อมมาก หรือเป็นระยะ 3 , 4 ( ระยะที่ 4 คือระยะสุดท้ายของข้อเข่าเสื่อม) ผลการรักษาก็มักจะไม่ค่อยได้ผล
รูปแสดงระยะความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อมมี 4 ระยะ
(ภาพได้จาก https://www.physio-pedia.com)
ท้ายสุดนี้หมออยากให้คนไข้เข้าใจว่าทั้ง น้ำไขข้อเทียม และ เกร็ดเลือดยังไม่สามารถหยุดการเป็นไปข้อโรคและยังไม่สามารถรักษาข้อเข่าเสื่อมให้หายข าดได้และไม่สามารถทำให้กระดูกอ่อนผิวข้อที่เสื่อมไปแล้วนั้นกลับมาดีได้เหมือนเดิมเพียงแต่ช่วยป้องกันกระดูกอ่อนผิวข้อไม่ให้ถูกทำลายมากขึ้น (ชะลออาการเสื่อมของข้อ ) ช่วยลดอาการปวดโดยลดการทานยาแก้ปวดลงได้(เพราะคนไข้ที่ทานยาแก้ปวดมานานจะได้ผลข้างเคียงในด้านทำลายตับ ไตจากยาแก้ปวด )